วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กรมเจ้าท่าทุ่ม 59 ล้านขุดลอกร่องน้ำทะเลสาบสงขลาเตรียมรับมือน้ำท่วม

กรมเจ้าท่าใช้งบ 59 ล้าน ขุดลอกร่องน้ำทะเลสาบสงขลา เพื่อเป็นเส้นทางเดินเรือและระบายน้ำออกสู่ทะเล แก้ปัญหาความตื้นเขินของทะเลสาบสงขลาบรรเทาปัญหาอุทกภัยของลุ่มน้ำคลองอู่ ตะเภา ให้น้ำสามารถไหลลงทะเลสาบสงขลาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น       
       
วันที่ 1 พ.ย.54 กรมเจ้าท่า โดยศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จังหวัดสงขลา ได้ดำเนินการขุดลอกร่องน้ำทะเลสาบสงขลา เพื่อเป็นเส้นทางเดินเรือและระบายน้ำออกสู่ทะเล แก้ปัญหาความตื้นเขินของทะเลสาบสงขลา และบรรเทาปัญหาอุทกภัยของลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภาให้น้ำสามารถไหลลงทะเลสาบสงขลา ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
      
       ทั้งนี้ ได้ทำการขุดลอกตั้งแต่บริเวณปากร่องน้ำไปจนถึงบริเวณท่าเทียบเรือประมงใหม่ จำนวนดิน 1,020,000 คิว ใช้เรือตักดิน 4 ลำ ใช้งบประมาณกว่า 59 ล้านบาทเศษ ในขณะนี้ได้ดำเนินการขุดลอกร่องน้ำทะเลสาบสงขลา ซึ่งจะแล้วเสร็จตามโครงการฯ ประมาณเดือนมกราคม 2555 ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้เร่งรัดการดำเนินการขุดลอกร่องน้ำฯ ให้แล้วเสร็จในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2554 เพื่อรองรับฤดูมรสุมลมตะวันออกเฉียงเหนือในปีนี้
      
       ขณะเดียวกัน ศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จังหวัดสงขลา ได้ทำการสำรวจตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่ร่องน้ำปากทะเลสาบสงขลาไปจนถึงท่าเทียบเรือประมงใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงสภาพการใช้ที่ดินบริเวณต้นน้ำ ทำให้ตะกอนดินถูกชะล้างไหลลงสู่ทะเลสาบ มีตะกอนดินสะสมเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ทะเลสาบสงขลาประสบปัญหาความตื้นเขิน และมีความจำเป็นต้องทำการขุดลอกร่องน้ำทะเลสาบสงขลา เพื่อแก้ไขปัญหาการตื้นเขินของทะเลสาบสงขลา
      
       นายณัฐชัย พลกล้า ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สำหรับวิธีการขุดลอกร่องน้ำทะเลสาบสงขลา ใช้เรือลักษณะเหมือนเรือแก๊ปจำนวน 4 ลำ ตักดินใส่ในบาสแล้วลากไปทิ้งที่บริเวณพื้นที่ที่กำหนดด้านหลังเกาะแมว
      
       ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 4 จังหวัดสงขลา ได้มีการสำรวจและคำนวณพื้นที่และปริมาณดินบริเวณที่ทำการขุดลอก จำนวน 1,020,000 คิว โดยดินนี้จะนำไปบริเวณด้านหลังเกาะแมว เพื่อให้ตะกอนดินพัดเข้าฝั่งอำเภอสิงหนคร ช่วยประทังการการกัดเซาะชายฝั่ง เข้าเติมเต็มทรายบริเวณหาดทรายแก้วที่ถูกคลื่นซัดหายไปให้กลับมาสู่สภาพเดิม
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: