ประธานคณะกรรมาธิการการ ยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา ลงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ติดตามผลและป้องกันการลักลอบค้ามนุษย์ หลังดีเอสไอ บุกเข้าช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ 71 คนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
วันที่ 2 ก.พ.55 พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ประธานกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา และคณะ เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าคดีการค้ามนุษย์ หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอบุกเข้าช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์จำนวน 71 คน ภายในสถานบริการชาลี 259 ที่บ้านด่านนอก เมืองท่องเที่ยวชายแดนไทย-มาเลเซีย เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และจับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวไทย และมาเลเซียได้6 คน
โดยมี พ.ต.อ ฐปกรณ์ เทิดรัตนพงศ์ รักษาการแทนผู้กำกับ สภ.สะเดา และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ด่านพรมแดนสะเดา รายงานความคืบหน้าของคดีและการช่วยเหลือเหยื่อให้รับทราบ โดยขณะนี้สถานบริการชาลี 259 ได้ถูกสั่งปิดกิจการและเปลี่ยนเจ้าของและเปิดเป็นร้านเสริมสวยแล้ว
ทั้งนี้ ทั้งคณะกรรมาธิการได้ซักถามถึงข้อสงสัยว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนรู้เห็น และได้รับผลประโยชน์หรือไม่ หรือปล่อยปละละเลยให้มีการค้ามนุษย์และค้าประเวณีเกิดขึ้น รวมทั้งได้แนะถึงแนวทางปฏิบัติว่าตำรวจสามารถเข้าไปตรวจสอบสถานบริการได้ตาม อำนาจหน้าที่ โดยทางตำรวจได้ชี้แจงในรายละเอียดและข้อสงสัยต่างๆ ให้รับทราบ
พล.ต.ท มาโนชน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ใน พื้นที่เพื่อนำข้อมูลไปศึกษา ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในส่วนความรับผิดชอบของใครหน่วยงานใด หากยังมีช่องว่างของกฎหมาย ก็จะนำไปแก้กฎหมายให้บังคับใช้ในเรื่องของสิทธิมนุษยชน และการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดด้วยและจะส่งเรื่องให้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ ต่อไป
วันที่ 2 ก.พ.55 พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ประธานกรรมาธิการการยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา และคณะ เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าคดีการค้ามนุษย์ หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอบุกเข้าช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์จำนวน 71 คน ภายในสถานบริการชาลี 259 ที่บ้านด่านนอก เมืองท่องเที่ยวชายแดนไทย-มาเลเซีย เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และจับกุมผู้ต้องหาทั้งชาวไทย และมาเลเซียได้6 คน
โดยมี พ.ต.อ ฐปกรณ์ เทิดรัตนพงศ์ รักษาการแทนผู้กำกับ สภ.สะเดา และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ด่านพรมแดนสะเดา รายงานความคืบหน้าของคดีและการช่วยเหลือเหยื่อให้รับทราบ โดยขณะนี้สถานบริการชาลี 259 ได้ถูกสั่งปิดกิจการและเปลี่ยนเจ้าของและเปิดเป็นร้านเสริมสวยแล้ว
ทั้งนี้ ทั้งคณะกรรมาธิการได้ซักถามถึงข้อสงสัยว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนรู้เห็น และได้รับผลประโยชน์หรือไม่ หรือปล่อยปละละเลยให้มีการค้ามนุษย์และค้าประเวณีเกิดขึ้น รวมทั้งได้แนะถึงแนวทางปฏิบัติว่าตำรวจสามารถเข้าไปตรวจสอบสถานบริการได้ตาม อำนาจหน้าที่ โดยทางตำรวจได้ชี้แจงในรายละเอียดและข้อสงสัยต่างๆ ให้รับทราบ
พล.ต.ท มาโนชน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ใน พื้นที่เพื่อนำข้อมูลไปศึกษา ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในส่วนความรับผิดชอบของใครหน่วยงานใด หากยังมีช่องว่างของกฎหมาย ก็จะนำไปแก้กฎหมายให้บังคับใช้ในเรื่องของสิทธิมนุษยชน และการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดด้วยและจะส่งเรื่องให้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ ต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น