เมียอดีตนายกสมาพันธ์ท่องเที่ยว จ.สงขลา และชาวบ้านกว่า 200 คน รอบวัดคลองเรียน คัดค้านการก่อสร้างเมรุ โดยไม่ได้การยอมรับจากเจ้าของที่ดิน และชาวบ้านรอบวัด ขณะที่รักษาการเจ้าอาวาสเผย มีการบีบจากคณะกรรมการวัดบางรายให้รับและยินยอมรับรู้เกี่ยวกับการสร้างเมรุ ดังกล่าว
วันที่ 17 ธ.ค.54 ที่ศาลาหอฉันวัดคลองเรียน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พระมหาสมคิด ฐานุตฺตโม ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน ได้มีการเรียกประชุมกรรมการวัด และชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณวัด ซึ่งมีทั้งพระ และชาวบ้านเข้าร่วมประชุมประมาณ 200 คน เพื่อที่จะหาทางออกในเรื่องของการสร้างเมรุของวัดที่ได้ก่อสร้างไปแล้ว ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากว่าที่ดินที่สร้างเมรุในส่วนดังกล่าวจำนวน 60 ตารางวา เดิมทีเป็นชื่อของนายนิมิต ชัยจีระธิกุล อดีตประธานสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยว จ.สงขลา กับนางรุ่งรัตน์ ชัยจีระธิกุล ภรรยา ได้ยกให้กับวัดตามคำขอของ จ.ส.อ.นุกูล มุณีสิทธิ์ คนสนิทของพระครูปัญญาภิมัณฑ์ เจ้าอาวาสวัดคลองเรียน โดยมีเงื่อนไขว่ามอบให้วัดไว้ปรับภูมิทัศน์ให้ดูสวยงาม หรือทำประโยชน์อย่างอื่นๆ ได้ ยกเว้นแต่สร้างเมรุ
ซึ่งหลังจากนายนิมิต ได้เสียไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค.53 ทางวัดกลับได้มีการก่อสร้างเมรุขึ้นในที่ดินดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 ส.ค.53 โดยที่ไม่ได้มีการบอกกล่าวให้นางรุ่งรัตน์ ในฐานะเจ้าที่ดินทราบ และสอบถามชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง เมื่อมีการสอบถามทางวัดก็ได้แจ้งว่าเป็นการตัดสินใจของกรรมการวัด ในขณะเดียวกันทางพระครูปัญญาภิมัณฑ์ ก็ได้เกิดอาพาธไม่สามารถปฏิบัติกิจใดๆ ของสงฆ์ได้ ทางคณะสงฆ์จึงได้แต่งตั้งให้พระมหาสมคิด ฐานุตฺตโม เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสแทน จึงเห็นว่าเมื่อมีการร้องคัดค้านของเจ้าของที่ดิน เพื่อความเป็นธรรม และการอยู่อย่างเข้าใจกัน จึงได้มีการเรียกประชุมดังกล่าว
ซึ่งนางรุ่งรัตน์ ในฐานะเจ้าของที่ดินได้มีการยืนยันว่า ได้ยกที่ดินให้วัดจริง แต่ได้แจ้งว่าไม่อนุญาตให้เมรุ ซึ่งทาง จ.ส.อ.นุกูล มุณีสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้มาขอที่ดินให้วัดก็ได้ยืนยันในที่ประชุม ว่าเป็นความจริง แต่ไม่สามารถห้ามการตัดสินใจของกรรมการวัดได้ ทำให้มีกรรมการวัดบางคนถึงกับลุกขึ้นพูดว่า ยังไม่มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องการสร้างเมรุเลย ก็ไม่รู้ว่าเมรุสร้างขึ้นได้อย่างไร ทำให้ตัวแทนชาวบ้านต้องขอลุกขึ้นเสริมว่า การสร้างเมรุดังกล่าวสร้างขึ้นมาโดยไม่มีการสอบถามชาวบ้านที่ติดกับวัดเลย ว่าเห็นชอบหรือไม่
และทางนายสมคิด อรัญดร ประธานสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ ก็ได้ชี้แจงว่าการก่อสร้างเมรุดังกล่าวไม่ได้รับการอนุญาตรับรองแบบก่อสร้าง จากทางเทศบาลแต่อย่างใด ซึ่งมีวัดใหญ่อีก 2 แห่งใน อ.หาดใหญ่ คือวัดหาดใหญ่ใน และวัดปลักกิม ที่ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ไม่ได้เซ็นอนุญาตแบบก่อสร้างให้
ทางพระมหาสมคิด ฐานุตฺตโม ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน ได้พูดในที่ประชุมว่า ตอนมารับตำแหน่ง ก็ถูกบีบจากคณะกรรมการวัดบางรายให้รับและยินยอมรับรู้เกี่ยวกับการสร้างเมรุ ดังกล่าว และมีความพยายามที่จะหาเรื่องบีบให้ออกจากตำแหน่งด้วย สุดท้ายในที่ประชุมต้องมีการเสนอให้กรรมการวัดจำนวน 30 คน และจากชาวบ้าน จำนวน 30 คน ประชุมกันในกลุ่มแล้วนำข้อเสนอมาคุยกันอีกครั้ง เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดและถือเป็นมติ ซึ่งทางนางรุ่งรัตน์ เจ้าของที่ดินก็ยินดีที่จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายบ้าง หากจะมีการย้ายที่สร้างเมรุดังกล่าว.
วันที่ 17 ธ.ค.54 ที่ศาลาหอฉันวัดคลองเรียน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พระมหาสมคิด ฐานุตฺตโม ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน ได้มีการเรียกประชุมกรรมการวัด และชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณวัด ซึ่งมีทั้งพระ และชาวบ้านเข้าร่วมประชุมประมาณ 200 คน เพื่อที่จะหาทางออกในเรื่องของการสร้างเมรุของวัดที่ได้ก่อสร้างไปแล้ว ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากว่าที่ดินที่สร้างเมรุในส่วนดังกล่าวจำนวน 60 ตารางวา เดิมทีเป็นชื่อของนายนิมิต ชัยจีระธิกุล อดีตประธานสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยว จ.สงขลา กับนางรุ่งรัตน์ ชัยจีระธิกุล ภรรยา ได้ยกให้กับวัดตามคำขอของ จ.ส.อ.นุกูล มุณีสิทธิ์ คนสนิทของพระครูปัญญาภิมัณฑ์ เจ้าอาวาสวัดคลองเรียน โดยมีเงื่อนไขว่ามอบให้วัดไว้ปรับภูมิทัศน์ให้ดูสวยงาม หรือทำประโยชน์อย่างอื่นๆ ได้ ยกเว้นแต่สร้างเมรุ
ซึ่งหลังจากนายนิมิต ได้เสียไปเมื่อวันที่ 13 ก.ค.53 ทางวัดกลับได้มีการก่อสร้างเมรุขึ้นในที่ดินดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 ส.ค.53 โดยที่ไม่ได้มีการบอกกล่าวให้นางรุ่งรัตน์ ในฐานะเจ้าที่ดินทราบ และสอบถามชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง เมื่อมีการสอบถามทางวัดก็ได้แจ้งว่าเป็นการตัดสินใจของกรรมการวัด ในขณะเดียวกันทางพระครูปัญญาภิมัณฑ์ ก็ได้เกิดอาพาธไม่สามารถปฏิบัติกิจใดๆ ของสงฆ์ได้ ทางคณะสงฆ์จึงได้แต่งตั้งให้พระมหาสมคิด ฐานุตฺตโม เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสแทน จึงเห็นว่าเมื่อมีการร้องคัดค้านของเจ้าของที่ดิน เพื่อความเป็นธรรม และการอยู่อย่างเข้าใจกัน จึงได้มีการเรียกประชุมดังกล่าว
ซึ่งนางรุ่งรัตน์ ในฐานะเจ้าของที่ดินได้มีการยืนยันว่า ได้ยกที่ดินให้วัดจริง แต่ได้แจ้งว่าไม่อนุญาตให้เมรุ ซึ่งทาง จ.ส.อ.นุกูล มุณีสิทธิ์ ซึ่งเป็นผู้มาขอที่ดินให้วัดก็ได้ยืนยันในที่ประชุม ว่าเป็นความจริง แต่ไม่สามารถห้ามการตัดสินใจของกรรมการวัดได้ ทำให้มีกรรมการวัดบางคนถึงกับลุกขึ้นพูดว่า ยังไม่มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องการสร้างเมรุเลย ก็ไม่รู้ว่าเมรุสร้างขึ้นได้อย่างไร ทำให้ตัวแทนชาวบ้านต้องขอลุกขึ้นเสริมว่า การสร้างเมรุดังกล่าวสร้างขึ้นมาโดยไม่มีการสอบถามชาวบ้านที่ติดกับวัดเลย ว่าเห็นชอบหรือไม่
และทางนายสมคิด อรัญดร ประธานสภาเทศบาลนครหาดใหญ่ ก็ได้ชี้แจงว่าการก่อสร้างเมรุดังกล่าวไม่ได้รับการอนุญาตรับรองแบบก่อสร้าง จากทางเทศบาลแต่อย่างใด ซึ่งมีวัดใหญ่อีก 2 แห่งใน อ.หาดใหญ่ คือวัดหาดใหญ่ใน และวัดปลักกิม ที่ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ไม่ได้เซ็นอนุญาตแบบก่อสร้างให้
ทางพระมหาสมคิด ฐานุตฺตโม ผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดคลองเรียน ได้พูดในที่ประชุมว่า ตอนมารับตำแหน่ง ก็ถูกบีบจากคณะกรรมการวัดบางรายให้รับและยินยอมรับรู้เกี่ยวกับการสร้างเมรุ ดังกล่าว และมีความพยายามที่จะหาเรื่องบีบให้ออกจากตำแหน่งด้วย สุดท้ายในที่ประชุมต้องมีการเสนอให้กรรมการวัดจำนวน 30 คน และจากชาวบ้าน จำนวน 30 คน ประชุมกันในกลุ่มแล้วนำข้อเสนอมาคุยกันอีกครั้ง เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดและถือเป็นมติ ซึ่งทางนางรุ่งรัตน์ เจ้าของที่ดินก็ยินดีที่จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายบ้าง หากจะมีการย้ายที่สร้างเมรุดังกล่าว.
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น