วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

พบโลมาอิรวดีตายเพิ่มอีก 1 เป็นตัวที่ 3 ในเดือนนี้ เสี่ยงสูญพันธุ์


พบโลมาอิรวดีเพศเมีย อายุประมาณ 15 ปี ตายเพิ่มอีก 1 ตัว เป็นตัวที่ 3 ของเดือนนี้ และตัวที่ 6 ในรอบปี สาเหตุมาจากการติดอวนปลาบึกของชาวประมง นักวิชาการเผยประชากรโลมาอิรวดีเหลือแค่ 20-30 ตัว ซึ่งอยู่ในขั้นวิกฤตที่จะสูญพันธุ์
      
       วันที่ 25 เม.ย.55 นายอุทัย ยอดจันทร์ ประธานชมรมอนุรักษ์โลมาอิราวดีบ้านแหลมหาด ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ได้รับแจ้งจากนายประเวศย์ บางพงศ์ เครือข่ายชมรมอนุรักษ์โลมาอิราวดีว่า พบโลมาอิรวดีลอยตายอยู่ในทะเลสาบสงขลา ห่างชายฝั่งพื้นที่ อ.กระแสสินธิ์ ประมาณ 8 กิโลเมตร จึงนำเรือออกไปลากซากโลมากลับเข้าฝั่ง พร้อมกับประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง มาทำการตรวจสอบ
      
       จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เป็นโลมาเพศเมีย ความยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 170 กิโลกรัม อายุประมาณ 15 ปี ตายมาแล้วประมาณ 3 วัน ที่บริเวณหัว พบร่องรอยการติดอวนขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องมือการทำประมงจับปลาบึกในทะเลสาบสงขลา สำหรับการตายของโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาตัวนี้เป็นตัวที่ 6 ในรอบปีนี้ และเป็นตัวที่ 3 เฉพาะเดือนนี้เดือนเดียว
      
       นายณรงค์ สอเหรบ นักวิชาการประมง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง กล่าวว่า สถานการณ์โลมาอิรวดีอยู่ในขั้นวิกฤต และเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ หากชาวประมงจำนวนกว่า 20 ราย ที่ใช้อวนขนาดใหญ่วางอวนจับปลาบึกในทะเลสาบสงขลา บริเวณที่ใกล้กับแหล่งอาศัยของฝูงโลมาอิรวดี ไม่มีจิตสำนึกที่จะช่วยกันอนุรักษ์โลมาอิรวดีให้คงอยู่คู่กับทะเลสาบสงขลา ในอนาคตอันใกล้นี้ ก็จะไม่มีโลมาอิรวดีเหลือให้คนรุ่นหลังพบเห็นในทะเลสาบสงขลาอีกต่อไป ซึ่งหมายถึงการสูญพันธุ์ของโลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลา
      
       เจ้าหน้าที่พยายามสื่อให้ชาวประมงรอบๆ ทะเลสาบสงขลาทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา และ จ.พัทลุง ได้ทราบถึงประโยชน์ของโลมาอิรวดี และช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้อยู่คู่กับทะเลสาบสงขลาเพื่อให้ลูกหลานได้ศึกษาต่อ ไปในอนาคต ขณะนี้ โลมาอิรวดีในทะเลสาบสงขลาไม่เกิน 20-30 ตัวเท่านั้น
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: