ผู้ว่าฯ จ.สงขลา มอบรางวัลนำจับ 5 แสน จนท. 3 หน่วยสามารถจับกุม “เจะหมะ วานิ” หนึ่งในสามผู้ต้องหาลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ลี การ์เดนส์ พลาซ่า ขณะที่ แม่ทัพ ภ.4 มอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่ชุดสืบสวนปราบปราม ฉก.ตชด.43 ที่ตามแกะรอยมากว่า 7 ปี จนสามารถจับกุมมือระเบิด ด้าน ผบช.ภ.9 เตรียมพิจารณาค่าหัวรายละ 1 ล้าน ตามที่อดีต ผบช.ภ.9 คนก่อนเคยประกาศไว้
วันที่ 18 ก.พ.56 ที่ห้องประชุม สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา มอบเงินสด จำนวน 5 แสนบาท ให้แก่กำลังเจ้าหน้าที่ 3 หน่วย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กลุ่มงานสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. หน่วยเฉพาะกิจสงขลา และฝ่ายปกครองอำเภอเทพา ที่สามารถจับกุม นายเจะหมะ วานิ หนึ่งในสามมือวางระเบิดคาร์บอมบ์โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 31 มีนาคมปี 55 ได้ โดยนายเจะหมะ ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะกบดานอยู่ที่บ้านเลขที่ 128 ม.5 ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา
โดยเงินสด จำนวน 5 แสนบาท เป็นเงินที่ภาคธุรกิจ และประชาชนชาว จ.สงขลา ช่วยกันบริจาคให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ และทางจังหวัดได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากสามารถจับกุมมือวางระเบิดได้จะมอบเงินให้รายละ 5 แสนบาท โดยเงินจำนวนนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ มอบให้ตำรวจ 3 ส่วน ทหาร 2 ส่วน และฝ่ายปกครองอีก 1 ส่วน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 ยังได้มอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามของหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 อีก 2 นาย ที่มีส่วนร่วมในการจับกุม “เจะหมะ วานิ” หลังจากที่ได้พยายามติดตามแกะรอยกลุ่มของ “เจะหมะ วานิ” มาร่วม 7 ปี จนสามารถทราบเครือข่ายทั้งหมดและจับกุมได้ในที่สุด
ทางด้าน พล.ต.ท.พิสิทฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เปิดเผยว่า ในส่วนของรางวัลนำจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาสซ่า รายละ 1 ล้านบาท ที่ทางตำรวจภูธรภาค 9 ได้ประกาศไว้ในสมัยของ พล.ต.ท.จักร์ทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 นั้น จะติดตามในรายละเอียดนเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งเพราะเพิ่งมาดำรงตำแหน่งใหม่ แต่ก็พร้อมที่จะมอบให้เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิด โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า หลังจากที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน คือ “เจะหมะ วานิ” คดีนี้ยังเหลือผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนีอีก 2 คน คือ “เสรี แวมามุ” และ “รุสลัน ใบมะ” ตามภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า บันทึกได้ และคำซัดทอดของนายเจะหมะ ซึ่งให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
โดยต้องการเรียกร้องให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แต่โดยดี ทั้งมอบกับตน นายอำเภอ หน่วยเฉพาะกิจสงขลา หรือผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามพระราชบัญญัติความมั่นคง พ.ศ.2551 ซึ่ง จ.สงขลา เป็นจังหวัดเดียวในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นำกฎหมายฉบับนี้มาใช้
เนื่องจากตามมาตรา 21 จำเลย หรือผู้ต้องหาความมั่นคงที่เข้ามอบตัว และถูกนำตัวขึ้นศาลเมื่อศาลสั่งให้ไปฝึกอบรมเป็นเวลา 6 เดือน ก็จะไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญา หรือคดีความมั่นคง และระหว่างการฝึกอบรมก็ไม่มีฐานะเป็นผู้ต้องหา ไม่มีเครื่องพันธนาการ และญาติสามารถเยี่ยมได้ นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังมีเงินมอบให้อีกคนละ 5 แสนบาท ที่ภาคธุรกิจและประชาชนชาว จ.สงขลา ช่วยกันบริจาค เพื่อนำไปใช้ตั้งต้นชีวิตใหม่ แต่หากทั้ง 2 คนไม่เข้ามอบตัว และถูกจับกุมได้ก็จะถูกดำเนินคดีอาญาตามกฏหมาย และเงิน 5 แสนบาท ก็จะมอบให้แก่เจ้าหน้าที่
วันที่ 18 ก.พ.56 ที่ห้องประชุม สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา มอบเงินสด จำนวน 5 แสนบาท ให้แก่กำลังเจ้าหน้าที่ 3 หน่วย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กลุ่มงานสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศชต. หน่วยเฉพาะกิจสงขลา และฝ่ายปกครองอำเภอเทพา ที่สามารถจับกุม นายเจะหมะ วานิ หนึ่งในสามมือวางระเบิดคาร์บอมบ์โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ เมื่อวันที่ 31 มีนาคมปี 55 ได้ โดยนายเจะหมะ ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะกบดานอยู่ที่บ้านเลขที่ 128 ม.5 ต.เทพา อ.เทพา จ.สงขลา
โดยเงินสด จำนวน 5 แสนบาท เป็นเงินที่ภาคธุรกิจ และประชาชนชาว จ.สงขลา ช่วยกันบริจาคให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ และทางจังหวัดได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากสามารถจับกุมมือวางระเบิดได้จะมอบเงินให้รายละ 5 แสนบาท โดยเงินจำนวนนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ มอบให้ตำรวจ 3 ส่วน ทหาร 2 ส่วน และฝ่ายปกครองอีก 1 ส่วน
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 ยังได้มอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปรามของหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 อีก 2 นาย ที่มีส่วนร่วมในการจับกุม “เจะหมะ วานิ” หลังจากที่ได้พยายามติดตามแกะรอยกลุ่มของ “เจะหมะ วานิ” มาร่วม 7 ปี จนสามารถทราบเครือข่ายทั้งหมดและจับกุมได้ในที่สุด
ทางด้าน พล.ต.ท.พิสิทฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เปิดเผยว่า ในส่วนของรางวัลนำจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาสซ่า รายละ 1 ล้านบาท ที่ทางตำรวจภูธรภาค 9 ได้ประกาศไว้ในสมัยของ พล.ต.ท.จักร์ทิพย์ ชัยจินดา เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 นั้น จะติดตามในรายละเอียดนเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งเพราะเพิ่งมาดำรงตำแหน่งใหม่ แต่ก็พร้อมที่จะมอบให้เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการ จ.สงขลา เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิด โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า หลังจากที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน คือ “เจะหมะ วานิ” คดีนี้ยังเหลือผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและยังหลบหนีอีก 2 คน คือ “เสรี แวมามุ” และ “รุสลัน ใบมะ” ตามภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า บันทึกได้ และคำซัดทอดของนายเจะหมะ ซึ่งให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
โดยต้องการเรียกร้องให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แต่โดยดี ทั้งมอบกับตน นายอำเภอ หน่วยเฉพาะกิจสงขลา หรือผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามพระราชบัญญัติความมั่นคง พ.ศ.2551 ซึ่ง จ.สงขลา เป็นจังหวัดเดียวในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่นำกฎหมายฉบับนี้มาใช้
เนื่องจากตามมาตรา 21 จำเลย หรือผู้ต้องหาความมั่นคงที่เข้ามอบตัว และถูกนำตัวขึ้นศาลเมื่อศาลสั่งให้ไปฝึกอบรมเป็นเวลา 6 เดือน ก็จะไม่ต้องถูกดำเนินคดีอาญา หรือคดีความมั่นคง และระหว่างการฝึกอบรมก็ไม่มีฐานะเป็นผู้ต้องหา ไม่มีเครื่องพันธนาการ และญาติสามารถเยี่ยมได้ นอกจากนี้ ทางจังหวัดยังมีเงินมอบให้อีกคนละ 5 แสนบาท ที่ภาคธุรกิจและประชาชนชาว จ.สงขลา ช่วยกันบริจาค เพื่อนำไปใช้ตั้งต้นชีวิตใหม่ แต่หากทั้ง 2 คนไม่เข้ามอบตัว และถูกจับกุมได้ก็จะถูกดำเนินคดีอาญาตามกฏหมาย และเงิน 5 แสนบาท ก็จะมอบให้แก่เจ้าหน้าที่
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้