วันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ชาวจะนะร้องผู้ว่าฯรอบ 2 เดือดร้อนสายส่งไฟฟ้าตัดผ่านสวนยางกว่าพันไร่


ชาวบ้าน ต.นาหว้า อ.จะนะ ยื่นหนังสือร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาครั้งที่ 2 หลังจาก กฟผ.ลงสำรวจพื้นที่ก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่านสาวนยางพารากว่าพันไร่ เสนอหาแนวทางใช้ที่ดินร่วมกัน ด้าน สกพ.ยันจะดูแลชาวบ้านให้ได้รับความเป็นธรรม
      
       วันที่ 11 พ.ค.55 ชาวบ้าน ต.นาหว้า อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โรงไฟฟ้าจะนะ ซึ่งนำโดยนาย สายัณห์ สมบูรณ์พงษ์ นำหนังสือเข้าร้องเรียนกับ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา อีกครั้ง หลังจากเคยได้นำมายื่นแล้วเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เนื่องจาก การก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจากโรงไฟฟ้าจะนะ ไปยังสถานีไฟฟ้าคลองแงะ อ.สะเดา เขตสายส่งกว้าง 50 เมตร ระยะทางยาว 34 กิโลเมตร ผ่านท้องที่ 7 ตำบล 3 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา และแนวสายส่งพาดผ่านพื้นที่สวนยางพาราของราษฎรหลายราย มีพื้นที่รวมกันตลอดความยาวประมาณ 1,062 ไร่ หากมีการดำเนินการก่อสร้างก็จะทำให้เจ้าของสวนยางกระทบด้านอาชีพ
      
       และในวันนี้จึงได้มีการประชุมร่วมกัน ระหว่าง ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ สกพ.และชาวบ้าน ต.นาหว้า ที่ได้รับผลกระทบ
      
       นายสายัณห์ สมบูรณ์พงษ์ หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบ และเป็นตัวแทนของชาว ต.นาหว้า กล่าวว่า ที่ต้องร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเสนอให้หาแนวทางร่วมกัน และอยากแสดงพลังให้เห็นว่าที่ผ่านมาชาวบ้านเดือดร้อน กฟผ.ไม่เคยเข้ามาดูแล ไม่ได้จริงใจกับชาวบ้าน และการดำเนินงานในการสำรวจที่ดินดังกล่าวไม่เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยมีชาวบ้านเจ้าของที่ดินบางส่วนไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้มีการแจ้งหรือพูดคุยกับชาวบ้านก่อนที่ลงสำรวจพื้นที่ ซึ่งหากเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้สายส่งไฟฟ้าแรงสูงต้องตัดผ่านแนวที่ กฟผ.กำหนดไว้ เพราะมันจะกระทบด้านอาชีพของชาวบ้านหลายร้อยครัวเรือน แต่หากจำเป็นต้องตัดผ่านเส้นทางนี้ ก็อยากจะเสนอให้ทาง กฟผ.แก้ปัญหาว่าจะมีแนวทางที่จะสามารถใช้ที่ดินร่วมกันได้หรือไม่ อย่างเช่นให้ยกระดับความสูงของสายส่งเพื่อให้สามารถปลูกพืชใต้เสาสายส่งได้ และถ้าหากทำได้ จะมีพืชเศรษฐกิจตัวไหนบ้างที่สามารถปลูกทดแทนยางพาราและสร้างรายได้เหมือน กันยางพารา เพราะเป็นอาชีพหลักและอาชีพเดียวของชาวบ้าน
      
       ด้าน นายกกษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ กล่าว ทางจังหวัดจะรับเรื่องไว้โดยมี 3 ข้อด้วยกันคือ เรื่องการกำหนดราคาค่าชดเชย ตั้งคณะกรรมการลงตรวจสอบพื้นที่ และกรณีหากมีการก่อสร้างสายส่งให้ทาง กฟผ.ยกระดับสายส่งให้สูงขึ้นกว่ากำหนดเดิมเพื่อจะได้ทำการเกษตรได้ และนอกเหนือจากจ่ายค่าชดเชยแล้วต้องมีพืชเศรษฐกิจมาทดแทนยางพาราด้วย
      
       ส่วนด้าน นายวรภรรษ มีลาภ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ สกพ.ยืนยันกับชาวบ้านชัดเจนว่า จะไม่ปล่อยให้เป็นเหมือนอย่างที่ กฟผ.เคยทำที่ผ่านมา ขณะนี้ ทาง สกพ.ได้ให้มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ทำวิจัย เรื่องเยียวยาดูแลผู้ได้รับผลกระทบบริเวณสายส่ง เพื่อหาขอสรุปว่าควรจะเยียวยาหรือดูแลผู้ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง อีกทั้งยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการในระดับอำเภอ เพื่อรับข้อเสนอจากชาวบ้านอีกด้วย เพราะฉะนั้น สกพ.จะไม่ปล่อยให้ กฟผ.ทำอะไรต่อประชาชนโดยไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างเด็ดขาด
      
       อย่างไรก็ตาม วันที่ 16 พ.ค.ที่จะถึงนี้ ทาง สกพ. และคณะกรรมการที่ทางจังหวัดสงขลาจัดตั้งขึ้น จะลงพื้นที่เพื่อร่วมประชุมกับชาวบ้าน เรื่องกำหนดค่าทดแทน และตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: