ตำรวจภาค 9 จับกุมการลักลอบนำเข้าน้ำมันเบนซินและดีเซลจากประเทศมาเลเซียจำนวน 20,000 ลิตร มูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท คนขับรถบรรทุกสารภาพขนไปส่งกรุงเทพฯ เผยรถคันนี้เคยถูกจับกุมแล้วครั้งหนึ่งที่ จ.พัทลุงเมื่อปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่เจ้าของดำเนินการนำรถออกไปและกลับมาลักลอบขนน้ำมันเถื่อนอีก
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 23 ก.ค.55 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ภัทรภาณุ ผบก.กก.สส.ภาค 9 พ.ต.อ.อัมพล บัวรับพร รอง ผบก.กก.สส.ภาค จ.สงขลา ร่วมกันจับกุมการลักลอบนำเข้าน้ำมันเบนซินและดีเซลจากประเทศมาเลเซีย โดยไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากร พร้อมของกลางน้ำมันเบนซินจำนวน 10,000 ลิตร และน้ำมันดีเซลจำนวน 10,000 ลิตร มูลค่า 3.5 ล้านบาท พร้อมรถบรรทุกหัวลากจูง ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 79-8932 กทม. ส่วนแท็งก์บรรทุกน้ำมัน หมายเลขทะเบียน 79-8933 กทม.ตัวแท็งก์น้ำมันมีตัวเลขใบอนุญาต เลขที่ กท.217/7/2551 ของบริษัท วันโลจิสติกส์ จำกัด จำนวน 1 คัน
สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามได้ออกปฏิบัติหน้าที่บริเวณถนนสายกาญจนวนิช ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้พบรถสิบล้อหัวลากจูงคันดังกล่าวบรรทุกน้ำมันเบนซินและดีเซลจำนวน 20,000 ลิตรวิ่งผ่านมา จึงได้เรียกตรวจสอบภายในแท็งก์พบน้ำมันเบนซินและดีเซลบรรจุอยู่ จึงขอตรวจสอบเอกสารการนำเข้าและเอกสารการชำระภาษี โดยมี นายวิชิต จันชฤชา อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นคนขับรถยอมรับสารภาพว่าไม่มีเอกสารการนำเข้าและเอกสารการเสียภาษี และน้ำมันทั้งหมดรับมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพื่อจะนำไปส่งที่กรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 27 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบกับมาตรา 16, 17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวไว้เป็นของกลางและนำตัวคนขับส่งดำเนินคดีตาม กฎหมายต่อไป
และจากการตรวจสอบพบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวเคยถูกเจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามศุลกากรภาคที่ 4 จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.พัทลุง ขณะขนน้ำมันดีเซลเถื่อนจำนวน 4 หมื่นลิตร มูลค่า 7 ล้านบาทไปส่งที่กรุงเทพฯ แต่เจ้าของได้ดำเนินนำรถออกไปและกลับมาลักลอบขนน้ำมันเถื่อนอีกครั้ง
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 23 ก.ค.55 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ทนงศักดิ์ ภัทรภาณุ ผบก.กก.สส.ภาค 9 พ.ต.อ.อัมพล บัวรับพร รอง ผบก.กก.สส.ภาค จ.สงขลา ร่วมกันจับกุมการลักลอบนำเข้าน้ำมันเบนซินและดีเซลจากประเทศมาเลเซีย โดยไม่ผ่านกระบวนการทางศุลกากร พร้อมของกลางน้ำมันเบนซินจำนวน 10,000 ลิตร และน้ำมันดีเซลจำนวน 10,000 ลิตร มูลค่า 3.5 ล้านบาท พร้อมรถบรรทุกหัวลากจูง ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 79-8932 กทม. ส่วนแท็งก์บรรทุกน้ำมัน หมายเลขทะเบียน 79-8933 กทม.ตัวแท็งก์น้ำมันมีตัวเลขใบอนุญาต เลขที่ กท.217/7/2551 ของบริษัท วันโลจิสติกส์ จำกัด จำนวน 1 คัน
สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามได้ออกปฏิบัติหน้าที่บริเวณถนนสายกาญจนวนิช ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้พบรถสิบล้อหัวลากจูงคันดังกล่าวบรรทุกน้ำมันเบนซินและดีเซลจำนวน 20,000 ลิตรวิ่งผ่านมา จึงได้เรียกตรวจสอบภายในแท็งก์พบน้ำมันเบนซินและดีเซลบรรจุอยู่ จึงขอตรวจสอบเอกสารการนำเข้าและเอกสารการชำระภาษี โดยมี นายวิชิต จันชฤชา อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นคนขับรถยอมรับสารภาพว่าไม่มีเอกสารการนำเข้าและเอกสารการเสียภาษี และน้ำมันทั้งหมดรับมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเพื่อจะนำไปส่งที่กรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 27 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบกับมาตรา 16, 17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวไว้เป็นของกลางและนำตัวคนขับส่งดำเนินคดีตาม กฎหมายต่อไป
และจากการตรวจสอบพบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวเคยถูกเจ้าหน้าที่ ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามศุลกากรภาคที่ 4 จับกุมมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.พัทลุง ขณะขนน้ำมันดีเซลเถื่อนจำนวน 4 หมื่นลิตร มูลค่า 7 ล้านบาทไปส่งที่กรุงเทพฯ แต่เจ้าของได้ดำเนินนำรถออกไปและกลับมาลักลอบขนน้ำมันเถื่อนอีกครั้ง
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น